คาโป้

มาพูดถึงอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับนักกีตาร์แล้วล่ะก็ สิ่งนึงที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ Capo!! (ออกเสียงว่า คาโป้ค่ะ)

Capo เป็นอุปกรณ์ที่เอาไว้ไปคาดบนคอกีต้าร์ที่ fret ใด fret หนึ่ง เพื่อที่จะทำให้คีย์สูงหรือต่ำลงนั่นเอง (ทางขวายิ่งสูงขึ้น ทางซ้ายก็จะยิ่งต่ำจ้า) หนึ่ง fret กีตาร์ คือ เสียงที่สูงขึ้น/ต่ำลง ครึ่งเสียง ดังนั้นหากเราคาดคาโป้ไว้ที่ fret ที่ 1 เสียงก็จะสูงขึ้นครึ่งคีย์ แต่หากเราคาดไว้ที่ fret ที่ 2 เสียงจะสูงขึ้นเป็นหนึ่งคีย์ค่ะ บางคนที่ไม่รู้จักบางทีก็อาจจะมีเรียกว่าตัวหนีบกีต้าร์บ้าง ไม่ต้องแปลกใจ เหมือนกัน

พอเรารู้วิธีใช้คาโป้กันแล้ว ประโยชน์หลักที่เราได้จากการใช้คาโป้ก็เห็นจะมีอยู่ 2 อย่างจ้า อย่างแรก คือ เราสามารถจับคอร์ดเดิมแล้วคาดคาโป้เพื่อช่วยให้คีย์สูงขึ้นหรือต่ำลง เพื่อให้เข้ากับคีย์ของคนร้องได้มากขึ้น

อย่างที่สอง คือ ช่วยให้เราสามารถจับคอร์ดที่ง่ายขึ้นโดยยังคงเสียงของคีย์เดิมไว้ได้ค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราเปิดไปเจอเพลงที่เต็มไปด้วย sharp ด้วย flat ( - -“) อย่างเช่น A#, D# และ F นักดนตรีมือใหม่(อย่างผู้เขียน) พยายามกดยังไง๊ ก็กด คอร์ด A# ไม่ได้ซะที อยากร้องก็อยากร้อง แต่ก็เล่นคอร์ดทาบไม่ได้ซะที อย่างนี้ก็อาจจะเกิดอาการท้อเอาได้ง่ายๆ

แหะๆ ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปหากเรารู้จักการใช้คาโป้!! อย่างที่บอกว่าคาโป้ช่วยทำให้คีย์สูงขึ้นทุกๆครึ่งคีย์ เมื่อเราเลื่อนไปหนึ่ง fret ทีนี้ถ้าหากเราคาดคาโป้ไว้ที่ fret ที่ 3 เราก็จะสามารถจับคอร์ดที่คีย์ต่ำลงได้ 3 คีย์ คือ G, C และ D ซึ่งเป็นคอร์ดที่จับง่ายขึ้นกว่าเดิมมากๆเลยใช่ไหมล่ะ :D ส่วน capo ที่คาดไว้ที่ fret ที่สาม เสียงก็จะสูงขึ้นมาสามคีย์ ทำให้เรายังคงร้องเพลงตามคอร์ด A#, D# และ F จ้า

ส่วนการเลือกซื้อคาโป้นั้น จริงๆแล้วคาโป้มีอยู่ 3 แบบหลักๆ คือ The Spring Loaded Capo, The C-Clamp Capo และ The Toggle Capo แต่ที่นิยมให้มากที่สุด คือ The spring Loaded Capo ค่ะ มีลักษณะเป็นตัวหนีบกีต้าร์แบบสปริง ซึ่งจะช่วยให้เราปรับเปลี่ยนตำแหน่งของคาโป้ได้ง่ายและรวดเร็วมาก และใช้แค่เพียงมือเดียว แต่จะมีข้อเสียเล็กน้อยตรงที่เราไม่สามารถปรับแรงหนีบของคาโป้ที่กดลงบนคอกีตาร์ได้ค่ะ นอกจากนี้หากเรามีคาโป้สำหรับกีตาร์ไว้แล้ว เราสามารถใช้ไปเล่นกับอูคูเลเล่ได้ด้วยนะ ถึงแม้ขนาดจะไม่พอดีกันมากแบบเป๊ะๆ แต่ก็สามารถใช้แทนๆ กันได้ ไม่ต้องไปเสียเงินซื้ออีกอันหรอกเนอะ :) โดย ราคาคาโป้ก็มีทั้งราคาถูก ไปจนถึงแพง ขึ้นอยู่กับวัสดุ และ Funtion ที่มีมาให้ด้วย เช่นบางรุ่นสามารถใช้ในการตั้งสายกีต้าร์ได้ด้วย ราคาก็จะแพงขึ้นอีกหน่อย